แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 – 1 บาร์เน็ต

ชมวีดีโอคลิปไฮไลท์การแข่งขัน คลิ๊กที่นี่
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 43,673 คน
รายการ คาร์ลิ่ง คัพ
เวลา 02.00 น. วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2548
ผู้ตัดสิน ริชาร์ด บีบี้
ดาวรุ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซัด 4 ประตูไล่ถล่มบาร์เน็ต ที่เหลือผู้เล่น 10 คน
เซฮร์ อเล็กซ์ เปลี่ยนแปลงนักเตะทั้ง 11 คนจากนัดที่เสมอกับสเปอร์ส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเน้นความตั้งใจของเขาที่จะให้โอกาสแก่นักเตะตัวสำรองและนักเตะดาวรุ่งได้ลงเล่นในศึกคาร์ลิ่ง คัพ
นักเตะทีมชุดใหญ่อย่างเวส บราวน์, ทิม โอเวิร์ด และเลียม มิลเลอร์ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมภายในประเทศเป็นนัดแรกของฤดูกาลนี้ ในขณะที่นัดนี้ถือเป็นการประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ของลี มาร์ติน (18 ปี), ริทชี่ โจนส์ (19 ปี) และอดัม เอ็คเคอร์สลี่ย์ (20 ปี)
เชราร์ด ปิเก้ (18 ปี), จูเซ็ปเป้ รอสซี่ (18 ปี) และซิลแวน อีแบงค์ส เบล็ค (19 ปี) ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเป็นนัดแรกของฤดูกาลนี้เช่นกัน ทำให้ฟิล บาร์ดสลี่ย์ กองหลังและคีแรน ริชาร์ดสัน ในตำแหน่งปีกซ้าย ดูเหมือนเป็นนักเตะประสบการณ์สูงไปเลย
ความหวังของบาร์เน็ต ที่จะสร้างปาฏิหารย์ในศึกคาร์ลิ่ง คัพ ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในการพบกับทีมดาวรุ่งร้อนแรงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นอันต้องปิดฉากลงอย่างรวดเร็วหลังจากเกมผ่านไปเพียง 2 นาที เมื่อรอสส์ ฟลิตนี่ย์ ผู้รักษาประตูของทีมเยือนตัดสินใจผิดพลาด
ในจิตสำนึกของนักเตะบาร์เน็ต คงจะคิดว่าเกมสำคัญของพวกเขาที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด นัดนี้อาจจะจบลงอย่างน่าเศร้า แต่อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้
คงจะด้วยเหตุผลที่เขาเท่านั้นจะสามารถอธิบายได้ ฟลิตนี่ย์ ออกมานอกกรอบเขตโทษและใช้มือคว้าบอลในจังหวะที่บอลหลุดมาอย่างไม่มีอันตรายใดๆ เลย บางทีอาจจะเป็นเพราะอาการประหม่าที่ได้ลงเล่นในเกมใหญ่ หรือบางทีเขาคงจะคาดการณ์ตำแหน่งของตัวเองผิดไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันทำให้เขาได้รับใบแดงไปอย่างไม่สมควร และถูกไล่ออกจากสนามไปตั้งแต่นาทีที่ 2
มันเป็นการเริ่มต้นเกมที่ไม่มีทีมใดต้องการ สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นโอกาสได้ทดสอบฝีเท้านักเตะดาวรุ่งในการพบกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่เล่นในระดับฟุตบอลลีก สำหรับบาร์เน็ต มันเป็นคืนสำคัญของพวกเขา ผู้ตัดสินน่าจะผ่อนปรนให้บ้าง แต่เขาทำหน้าที่เคร่งครัดตรงตามกฏระเบียบ และไล่ผู้รักษาประตูทีมเยือนออกจากสนามไป
ฟลิตนี่ย์ เดินออกจากสนามไปอย่างท้อแท้ใจท่ามกลางการยืนขึ้นปรบมือให้กับเขา และก็น่าเห็นอกเห็นใจหลุยส์ โซอาเรส กองหลังของบาร์เน็ต ด้วยที่ต้องยอมเสียสละถูกเปลี่ยนตัวออกให้ สกอตต์ ไทแนน ผู้รักษาประตูสำรองลงมาเล่นแทน
และจากลูกฟรีคิกในจังหวะนี้เอง ถือเป็นการสร้างความเจ็บช้ำให้กับแฟนบอลทีมเยือนประมาณ 4,500 คนเข้าไปอีก เมื่อเลียม มิลเลอร์ ตั้งใจปั่นบอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมบนเข้าไปอย่างสุดสวยให้ทีมออกนำไปก่อน 1-0 สิ่งแรกที่ไทแนน ลงมาทำในสนามก็คือการเก็บบอลมาจากก้นตาข่าย
แม้ว่าคู่แข่งจะเหลือผู้เล่น 10 คน ดาวรุ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เล่นกันได้ดีด้วยความมั่นใจ กล้าที่จะแสดงทักษะความสามารถและเอาชนะนักเตะทีมคู่แข่ง ทั้งเบล็ค, มาร์ติน และรอสซี่ เล่นกันอย่างมีชีวิตชีวา ในขณะที่ริทชี่ โจนส์ ก็เล่นอย่างสบายๆ คู่กับมิลเลอร์ ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง
ในการทำเกมครั้งหนึ่งหลังจากเวลาผ่านไปได้ 10 นาที นักเตะดาวรุ่งเหล่านี้แสดงให้ถึงความมั่นใจจากการได้ลงเล่นในทีมสำรองและคว้า 4 แชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
รอสซี่ ครองบอลอย่างสมบูรณ์แบบในระยะ 30 หลาจากประตู แล้วไหลบอลด้วยสัญชาตญาณไปให้มาร์ติน ทางฝั่งขวา ดาวรุ่งจากวิมเบิลดัน พาบอลไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วเปิดบอลต่ำเข้าไปให้กับเบล็ค โชคไม่ดีที่ดาวยิงวัย 19 ปีซึ่งเพิ่งหายจากอาการขาหักเมื่อเดือนที่แล้วยิงไม่เต็มเท้า บอลหลุดออกนอกกรอบไป อย่างไรก็ตามนักเตะแต่ละคนได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตัวเองที่น่ายกย่อง
และยังมีเหตุการณ์น่าเศร้าตามมาอีกสำหรับทีมเยือน เหตุการณ์แรกคือจูเลียโน่ กราซิโอลี่ กองหน้าของบาร์เน็ต ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายแต่ถูกปฏิเสธว่าเป็นลูกล้ำหน้า และในนาทีที่ 19 ริชาร์ดสัน ก็ทำประตูให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำห่างออกไปจากลูกฟรีคิก
ก่อนหน้านี้ ริชาร์ดสัน ถูกปฏิเสธการได้ประตูจากลูกฟรีคิกกลางประตูโดยไทแนน ป้องกันเอาไว้ได้ มาคราวนี้เขาปั่นบอลโค้งเข้าไปจากนอกกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา ซึ่งน่าจะเป็นความตั้งใจเปิดบอลเข้าไปมากกว่า แต่บอลลอยผ่านไม่โดนใครเลยรวมทั้งไทแนน ด้วย แล้วมุดลงเสียบเสาสองเข้าประตูไปให้ทีมนำห่าง 2-0
เกมรุกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลื่นไหลคล่องแคล่ว มีการส่งบอลและการเคลื่อนไหวที่น่าตื่นตาตื่นใจในครึ่งแรก และยังคงเหมือนเดิมในครึ่งหลังซึ่งเซอร์ อเล็กซ์ ยังใช้ผู้เล่น 11 คนชุดเดิมที่ลงเล่นใน 45 นาทีแรก เมื่อครึ่งหลังผ่านไปเพียง 5 นาทีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ออกนำห่างออกไปเป็น 3-0
มาร์ติน เข้าแย่งบอลกับ อดัม กรอสส์ แบ็คซ้ายของบาร์เน็ต และสามารถเก็บบอลเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เขาเปิดบอลต่ำพุ่งเข้าไปหารอสซี่ ดาวยิงร่างเล็กชาวอิตาลีรับบอลมาแล้วยิงทันทีตามสัญชาตญาณกองหน้า บอลพุ่งผ่านมือไทแนน เข้ามุมล่างขวาอย่างงดงาม
ปิศาจแดงยังคงเป็นฝ่ายควบคุมเกมเอาไว้ได้ แต่บาร์เน็ต ก็มีโอกาสได้แสดงความยินดีบ้างเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นเพียงการทำประตูปลอบใจก็ตาม
โชคไม่ดีสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มันเป็นความผิดพลาดของนักเตะคนหนึ่งที่ทำผลงานได้ดีในคืนนี้ เชราร์ด ปิเก้ ซึ่งลงเล่นคู่กับเวส บราวน์ ในตำแหน่งคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่งสัญญาณให้คู่กองหลังของเขาปล่อยบอลให้เขา แต่แล้วเขากลับลื่นล้มลงปล่อยให้ ดีน ซินแคลร์ หลุดไปดวลเดี่ยวกับโฮเวิร์ด แล้วซินแคลร์ ก็เลี้ยงหลบผู้รักษาประตูชาวมะกันที่ไม่ค่อยจะมีส่วนร่วมในเกมมากนักในคืนนี้ และยิงเข้าไปง่ายๆ ทำให้กองเชียร์ทีมเยือนได้เฮบ้าง บาร์เน็ต ตีไข่แตกได้สำเร็จไล่มาเป็น 3-1
ดาร์รอน กิ๊บสัน กองกลางชาวไอร์แลนด์เหนือซึ่งเพิ่งจะอายุครบ 18 ปีก่อนลงเล่นในนัดนี้เพียงวันเดียว ถูกเปลี่ยนตัวลงประเดิมสนามในสีเสื้อปิศาจแดงแทนที่ของลี มาร์ติน ที่ได้รับอาการบาดเจ็บจากการพุ่งเข้าไปชนป้ายโฆษณาและถูกหามออกจากสนามไป มาร์ติน เจ็บหลังจากจังหวะนี้ แต่อาการบาดเจ็บไม่น่าจะรุนแรงอะไร
และเบล็ค ก็ทำประตูได้สำเร็จในคืนนี้ เมื่อเขาได้บอลจากจังหวะที่รอสซี่ จับบอลห่างตัว และด้วยสัญชาตญาณกองหน้า เบล็ค บอกให้เจ้าเปี๊ยกปล่อยบอลให้กับเขา แล้วเขาก็เลี้ยงหลบไทแนน อย่างคล่องแคล่วและส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายโล่งๆ
จบเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะไปอย่างสบายด้วยสกอร์ 4-1 โดยเกมนี้ดาวรุ่งแสดงผลงานได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ทีมเยือนเหลือผู้เล่น 10 คน (บรรยายเกมโดย DaKinG)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ทิม โฮเวิร์ด 1
ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ 26
เวส บราวน์ 6
อดัม เอ็คเคอร์สลี่ย์ 44 ( น. 90)
เชราร์ด ปิเก้ 28
ริทชี่ โจนส์ 49 ( น. 64)
ลี มาร์ติน 46
เลียม มิลเลอร์ 17 ( น. 4)( น. 57)
คีแรน ริชาร์ดสัน 23 ( น. 19)
ซิลแวน อีแบงค์ส เบล็ค 40 ( น. 89)
จูเซ็ปเป้ รอสซี่ 42 ( น. 51)
สำรอง
ลุค สตีล 30
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
ดาร์รอน กิ๊บสัน 50 น. 75 ลี มาร์ติน 46
ปาร์ค จีซุง 13
อลัน สมิธ 14
บาร์เน็ต
รอสส์ ฟลิทนี่ย์ 1 ( น. 2)
เอียน เฮนดอน 4
ไซม่อน คิง 3
หลุยส์ โซอาเรส 21
นิค ไบลี่ย์ 2
อดัม กรอสส์ 5
ดเวน ลี 17
ดีน ซินแคลร์ 8 ( น. 74)
เบน สตรีเวนส์ 10
อีสเมล ยาคูบู 14 ( น. 13)
จูเลียโน่ กราซิโอลี่ 9
สำรอง
สกอตต์ ไทแนน 18 น. 3 หลุยส์ โซอาเรส 21
เดเมี่ยน แบตต์ 15 น. 87 ดเวน ลี 17
แอนโธนี่ย์ ชาร์เลส 6
ริชาร์ด เกรแฮม 11
เลียม แฮตช์ 7 น. 75 จูเลียโน่ กราซิโอลี่ 9
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงประตู 4, ลูกยิงตรงกรอบ 9, ลูกยิงหลุดกรอบ 4, ลูกยิงโดนบล็อค 1, เตะมุม 6, ฟาวล์ 12, ล้ำหน้า 3, ใบเหลือง 3, การครองบอล 62.2 %
บาร์เน็ต ยิงประตู 1, ลูกยิงตรงกรอบ 2, ลูกยิงหลุดกรอบ 4, เตะมุม 1, ฟาวล์ 8, ล้ำหน้า 3, ใบเหลือง 1, ใบแดง 1, การครองบอล 37.8 %
Por

Related Posts